แพ็คคู่ ครีมงาดำบดออร์แกนิค 100% 200กรัม
฿ 295.00
ทาฮีนี (Tahini) เกิดจากการนำเมล็ดงาดำหรืองาดำมาบดจนเป็นเนื้อครีม นิยมใช้ในอาหารแอฟริกาเหนือ อาหารกรีก อาหารตุรกี และอาหารตะวันออกกลาง ถือเป็นเมนูแสนอร่อยที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถใช้ทดแทนเนยหรือมาการีน เพื่อใช้ทาขนมปังหรือแครกเกอร์ (spread) เป็นดิปปิ้งซอส (dipping sauce) แสนอร่อย ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเมนูของทานเล่น หรือใช้เป็นน้ำสลัดเพื่อสุขภาพเพื่อทดแทนมายองเนสหรือสลัดครีมอื่นๆ หรืออาจนำไปใช้เป็นส่วนประกอบหลักของฮุมมุส (Hummus) และอาหารอื่นๆ ได้หลากหลาย
ครีมงาดำบดออร์แกนิคของ RAWGANIQ ผลิตจากเมล็ดงาดำออร์แกนิคแท้ 100% ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่เติมสี ไม่เพิ่มความหวาน ไม่ใส่เกลือ และไม่ใช้วัตถุกันเสีย มีเพียงรสชาติของเมล็ดงาดำออร์แกนิคคุณภาพสูงแท้ๆ จากธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าสารอาหารสูงสุด เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพที่ไม่ชอบรสหวาน
- Description
- Additional information
- Lab Analysis
Description
ทำไมต้อง RAWGANIQ
ครีมงาดำบดออร์แกนิคของ RAWGANIQ ผลิตจากเมล็ดงาดำออร์แกนิคนำเข้าจากอินเนอร์ มองโกเลีย ผ่านกรรมวิธีการบดปริมาณน้อยด้วยเครื่องโม่หินแบบดั้งเดิม มีการควบคุมอุณหภูมิและรักษาระดับความร้อนระหว่างผลิต เพื่อให้ได้รสชาติอันเข้มข้นของเมล็ดงาแท้ๆ จนได้ครีมงาดำบดรสเนียนนุ่มที่มาจากธรรมชาติ 100% ไม่มีการแต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่เติมสี ไม่เพิ่มความหวาน ไม่ใส่เกลือ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย มีเพียงรสชาติของเมล็ดงาดำออร์แกนิคคุณภาพสูงแท้ๆ ที่ให้ทั้งความอร่อยและคุณค่าสารอาหารสูงสุด
- ใช้วิธีการโม่หินแบบดั้งเดิมในปริมาณน้อย และใช้ความร้อนต่ำ
- มีใบรับรองออร์แกนิคมาตรฐาน USDA และ EU (ดูใบรับรอง)
- เรานำเข้าสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศแหล่งกำเนิด การันตีทั้งเรื่องคุณภาพและราคา
- ผลิตและแบ่งบรรจุในโรงงานที่มีใบอนุญาตจากอ.ย. และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ HACCP Codex (ดูใบรับรอง)
- เราเก็บรักษาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในห้องควบคุมอุณหภูมิ
- สินค้าบรรจุสุญญากาศเพื่อคงความสดใหม่
- เลือกใช้เฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร (food-grade) และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสารตกค้างจากบรรจุภัณฑ์ (Migration test) เท่านั้น
- ผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งด้านความปลอดภัยและคุณค่าสารอาหาร
ข้อมูลเพิ่มเติม
งามีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญก็คือ เซซามิน (sesamin) เซซาโมลิน (sesamolin) และเซซามอล (sesamol) ซึ่งช่วยเสริมภูมิต้านทานอวัยวะอย่าง ตับ สมอง และหัวใจ รวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม เพราะเซซามิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ช่วยชะลอความแก่ สร้างภูมิคุ้มกันใหักับผิว และซ่อมแซมเซลล์ผิว
นอกจากนี้ งายังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง พร้อมกันนั้นยังมีสารบำรุงประสาทด้วย และวิตามินอีเป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยต้านมะเร็ง
งาเป็นแหล่งที่มาของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึง 80% ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 กรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวและหลอดเลือดตีบ ช่วยให้ระบบหัวใจแข็งแรง รวมถึงบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และบำรุงผม
คุณประโยชน์ของเมล็ดงาดำออร์แกนิค:
-
บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำสามารถช่วยป้องกัน และชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยในการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มสูงวัยรับประทานสารสกัดจากงาดำแบบแคปซูลปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวันติดต่อกัน 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น -
บรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์
สำหรับคนที่มีปัญหาข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานงาดำสามารถลดอาการปวดได้ เพราะธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ทำให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง -
บำรุงผิวพรรณและกระดูก
งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลย -
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
สารเซซามีนและสานเซซาโมลีน เป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้ในงาดำก็ยังอุดมด้วยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่มึโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ยิ่งรับประทานก็ยิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย -
บำรุงหัวใจ
เพราะงาดำสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง -
ป้องกันโรคมะเร็ง
สารต้านอนุมูลอิสระที่อัดแน่นเต็มเมล็ดงาดำ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้งาดำกลายเป็นอาหารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ก็ลดลง นอกจากนี้สารเซซามีนที่มีอยู่ในงาดำก็ยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับและเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง แต่ทั้งนี้เอง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ -
ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย
แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น -
บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี -
แก้ผมร่วง บำรุงเส้นผม ช่วยป้องกันผมหงอก
งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี -
ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
แคลเซียมและแมกนีเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีในงาดำก็ยังเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง -
บำรุงสายตา
ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็จะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ จึงทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสายตาและตับไปพร้อม ๆ กัน - ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ
- ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย
- ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
- ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงยิ่งขึ้น
- ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
- งาดำมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยบำรุงโลหิต
- ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
- ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา และตะคริว
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
- ช่วยต้านการอักเสบจากโรคข้อเสื่อม ยับยั้งการเสื่อมสลาย
วิธีรับประทาน:
- ใช้เป็นซอสสำหรับจิ้ม (dipping sauce) หรือเป็นน้ำสลัด
- ใช้แทนเนยหรือมาการีน สำหรับทาขนมปัง แครกเกอร์ หรือใส่ในขนมอบและเบเกอรี่
- ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำฮุมมุส (hummus)
- ใช้ประกอบอาหาร และของหวานต่างๆ
ที่มา:
http://whfoods.com
http://authoritynutrition .com
http://draxe .com
https://nutritionfacts.org
https://medthai.com
https://health.kapook.com
Additional information
Weight | 400 g |
---|---|
Dimensions | 10 × 10 × 20 cm |